วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การเขียนแผนธุรกิจ (How to write Business plan)

การเขียนแผนธุรกิจ

แผนธุรกิจ (Business Plan)

คู่มือการเชียนแผนธุรกิจ คลิกที่นี่

เป็นเครื่องมือสําคัญสําหรับ ผู้ประกอบการที่ริเริ่มก่อตั้งกิจการ และผู้ประกอบการที่กําลังจะขยายกิจการและประสงค์จะขอกู้เงินจากสถาบันการ เงินและหาผู้ร่วมลงทุน โดยแผนธุรกิจช่วยประกอบการตัดสินใจและการดําเนินธุรกิจให้มีเป้าหมายและทิศ ทางชัดเจน เปรียบเสมือนแผนที่ในการบอกรายละเอียดในการเดินทาง ซึ่งจะทําให้ผู้ประกอบการถึงจุดหมายที่ตั้งไว้
วัตถุประสงค์ในการจัดทําแผนธุรกิจ

* ทําใหผู้ประกอบการมีเป้าหมายที่ชัดเจน และกําหนดแนวทางของความคิดในการประกอบธุรกิจ
* เป็นเครื่องมือที่จะแสวงหาเงินทุนจากผู้ร่วมลงทุนและจากสถาบันการเงินต่าง ๆ
* ช่วยบอกรายละเอียดของกิจกรรม ต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมในการจดหาเงินทุน กิจกรรมในการพัฒนาการผลิต กิจกรรมด้านการตลาด ซึ่ง แผนธุรกิจยังใช้เพื่อกําหนดการปฏิบัติงานที่ต่อเนื่องในอนาคตของกิจการอีก ด้วย

องค์ประกอบของแผนธุรกิจ
1. บทสรุปสําหรับผู้บริหาร (Executive Summary)

* ทําธุรกิจอะไรและมีแนวธุรกิจนั้น เป็นอย่างไร มีโอกาสและกลยุทธ์ในการดําเนินธุรกิจอย่างไร กลยุทธ์ที่จะทําให้ประสบความสําเร็จ ( Key to Success )
* กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและการคาดคะเนลูกค้าเป้าหมา
* ความได้เปรียบเชิงแข่งขันของธุรกิจ เช่น ความได้เปรียบจากตัวผลิตภัณฑ์ความได้เปรียบจากการเข้าตลาดก่อน
* ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจและความสามารถในการทํากําไร

2. ประวัติความเป็นมา (Company Summary)

* ประวัติการจัดตั้งทุนของกิจการ และประวัติการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้น
* การดําเนินธุรกิจประเภทสินค้าและบริการมีอะไรบ้าง กําลังการผลิต ยอดขาย
* สถานที่ตั้งสํานักงาน สินทรัพย์ถาวรมีอะไรบ้าง เช่น ที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักร

3. การวิเคราะห์สถานการณ์ (SWOT Analysis)

* การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน
* การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก


ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์สถานการณ์จะ ช่วยให้ทราบถึงความเป็นไปได้และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของการดําเนินธุรกิจ ที่เป็นประโยชน์ในการกําหนดกลยุทธ์ด้านต่างๆ ของกิจการ
4. วัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจ

* เป้าหมายโดยรวม
* เป้าหมายเฉพาะด้านได้แก่

(1) เป้าหมายและแผนทางการตลาด
(2) เป้าหมายและแผนทางผลิต
(3) เป้าหมายและแผนการจัดการด้านองค์กรและกําลังคน
(4) เป้าหมายและแผนการเงิน

ในการกําหนดเป้าหมายต้องพิจารณาถึง ความเป็นไปได้ในการที่จะบรรลุเป้าหมายสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม จึงควรมีการกําหนดระยะเวลา และเป้าหมายแต่ละด้านควรจะมีทิศทางเป็นไปในทางเดียวกัน
5. แผนการตลาด

* สินค้าและบริการ (Products and Service) กล่าวถึงว่า Positioning ของสินค้าหรือบริการว่าอยู่ตําแหน่ง จับตลาดเป้าหมายระดับใด และจุดแข็งของสินค้ามีอะไรบ้าง มีการวิเคราะห์ SWOT Analysis
* ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทั้งเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง
* ภาพรวมของตลาดและส่วนแบ่งการตลาด ช่องทางการจัดจําหน่าย
* การกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดและกิจกรรมทางการตลาด (ที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย)

6. การจัดการและโครงสร้างองค์กร (Management and Organization)
กล่าวถึงประวัติ ประสบการณ์ในการบริหารงานของทีมผู้บริหารเป็นรายบุคคลและหน้าที่รับผิดชอบใน แผนธุรกิจ และควรมีการวางแผนผังองค์กรเพื่อให้เห็นภาพรวมของอํานาจหน้าที่ในองค์กรของ แต่ละบุคคล
7. การดําเนินกิจการ (Operation)

* แผนการผลิต (กล่าวถึงความสามารถในการผลิต กําลังการผลิต)
* การจัดซื้อวัตถุดิบ
* ระบบสินค้าคงคลัง
* กําหนดการผลิตและปฏิบัติการ
* การรักษาเครื่องมือและเครื่องจักร
* อธิบายผังการผลิต ขั้นตอนการผลิต
* สถานที่ผลิต

8. แผนการเงิน (Finance Plan)
ข้อกําหนดสมมติฐาน
ประมาณการ

* งบกําไรขาดทุน
* งบดุล
* งบกระแสเงินสด
* แหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุน
* จุดคุ้มทุน - ระยะเวลาคืนทุน
* อัตราส่วนทางการเงิน เช่น ROE (Return on Equity) , ROI (Return on Investment), Current Ratio, D/E Ratio เป็นต้น

9. แผนการดําเนินงาน
เป็นการนําแผนด้านการผลิต การตลาด การจัดองค์กร และการเงินมาสรุปเพื่อนําไปสู่การกําหนดกลยุทธ์วิธีการ งบประมาณ และระยะเวลาดําเนินการ

10. ความเสี่ยง (Critical Risks)
กล่าวถึงปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบ กับธุรกิจ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย เป็นต้น และอาจพิจารณาถึง ความเสี่ยงจากคู่แข่งขันในตลาด ความเสี่ยงจากการขาดแคลนบุคลากรในอนาคต

11. แผนฉุกเฉินหรือแผนสํารอง
เป็นการเตรียมแนวทางการดํานินงาน ไว้ล่วงหนาในกรณีที่เกิดสถานการณ์หรือการดําเนินงานไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ หรือมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นในกิจการ ซึ่งสงผลกระทบในทางลบ เช่น ยอดขายหรือการเก็บเงินจากลูกหนี้ไม่เป็นตามแผน สินค้าถูกลอกเลียนแบบและขายในราคาที่ถูกกว่าสินค้าผลิตไม่ทันตามคําสั่งซื้อ เนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบหรือกําลังคน เป็นต้น
12. ภาคผนวก

* ประวัติของผู้บริหารโดยละเอียด
* ภาพถายสินค้า สถานที่ตั้งสถานที่ผลิต แผนที่โดยสังเขป
* ขอมูลวิจัยตลาดโดยทั่วไป
* ประมาณการงบการเงิน (Financial Sheets)
* บุคคลหรือองค์กรที่สามารถอ้างอิง หรือให้คํารับรอง (References)


--------------------------------------------------------------------------------
'แผนธุรกิจ' ยุคใหม่ เข็มทิศสู่ความสำเร็จ SMEs

กมลวรรณ มักการุณ

ไม่ว่าจะเป็นเถ้าแก่รุ่นเล็ก -รุ่นใหญ่ หรือเสี่ยหน้าใหม่-หน้าเก่า คุณเคยสำรวจดูบ้างไหมว่า ...ที่ผ่านมา กิจการของคุณเคยมี 'แผนธุรกิจ' บ้างหรือไม่
อย่าคิดว่าแผนธุรกิจก็แค่กระดาษ แผ่นหนึ่ง เพราะหากคุณได้วางแผนมาอย่างแยบคายแล้ว แผนธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจาก 'เข็มทิศ' ที่จะพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ
'แผนธุรกิจมีความสำคัญมาก ที่ไทยเราเจอปัญหาทุกวันนี้เพราะเราไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดถึงการบริหารความเสี่ยง ขาดการคิดให้ คม ชัด และลึก ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุดของธุรกิจก็คือการวางแผน' คำกล่าวของ 'รศ. ไว จามรมาน' อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เขาบอกว่า ผู้ประกอบการที่ดี นอกจากจะต้องเล็งเห็นความต้องการ (ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต) ของลูกค้าแล้ว การทำแผนธุรกิจก็คือ 'กับดักหนู' ที่จะทำให้ 'หนูลูกค้า' วิ่งเข้ามาหาเอง โดยที่เราแทบไม่ต้องทำการตลาดเลยด้วยซ้ำ
แผนธุรกิจนั้นเริ่มต้นจากการศึกษา 'ความเป็นไปได้' (Feasibility) ของแนวคิดธุรกิจที่จะทำเสียก่อน โดยรวมถึงการวิเคราะผลิตภัณฑ์ภายใต้ตลาดและลูกค้า ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีที่จะใช้ ความสามารถทางการบริหารที่จะทำให้ได้จริง และการวิเคราะห์การเงินและผลตอบแทนการลงทุน
เมื่อแน่ใจว่าธุรกิจของคุณมีความเป็นไปได้แล้ว...ก็เดินหน้าต่อไปด้วยขั้นตอนเหล่านี้
'ขั้นตอนการสร้างแผนธุรกิจนั้น ก่อนอื่นเราต้องกำหนดแนวคิดธุรกิจ (Business Concept) ก่อน ซึ่งเราต้องคิดให้ต่าง เช่นสมัยนี้ต้องเน้นเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีเป็นตัวทำกำไร ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีจะเป็นตัวชี้ขาดความสำเร็จของธุรกิจ เจ้าของกิจการจึงต้องศึกษาความน่าสนใจและความเหมาะสมของเทคโนโลยีที่จะนำมา ใช้ เป็นต้น'
จากนั้นให้กำหนด 'เป้าหมาย' ทั้งเป้าหมายสำหรับผู้ถือหุ้น ว่าต้องการอะไร และเป้าหมายของลูกค้าที่จะซื้อสินค้าหรือบริการว่าลูกค้าเหล่านั้นต้องการ อะไร จากนั้นก็คิดถึงการวิเคราะห์ตลาด และหาวิธีการสร้างกำไรว่าควรทำอย่างไร
ซึ่งทั้งหมดนี้คือ 'การออกแบบธุรกิจ' หรือ Business Design
เมื่ออกแบบได้คร่าวๆ แล้ว ขั้นต่อมาคือการวางสมมติฐานสำหรับแผนธุรกิจ ซึ่งในขั้นตอนนี้ รศ. ไว บอกว่าให้กำหนดสมมติฐาน และจำลองสถานการณ์ขึ้นมา (Simulation) ซึ่งเรียกว่าเป็น 'โมเดลธุรกิจ'
จากนั้นให้หาทางปรับปรุงธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขสมมติฐาน และการปรับระบบบริหารใหม่
'การออกแบบโมเดลธุรกิจนั้น ต้องคิดถึงการป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาในตลาด การสร้างช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย การสร้างให้ธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเลือกลูกค้าที่เหมาะสม หรือ Segmentation ซึ่งเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ
เช่นเราจะทำร้านกาแฟ ก็ต้องวิเคราะห์ตลาดดู ซึ่งอาจจะพบว่าแม่บ้านชอบดื่มกาแฟแบบ Instant Coffee และชอบไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะทำให้เรารู้ว่าจะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ได้ตรงไหน อย่างไร เป็นต้น' เขากล่าว
ทั้งนี้ โครงสร้างของแผนธุรกิจที่ดีนั้น ควรมีองค์ประกอบดังนี้
- บทสรุปผู้บริหาร ได้แก่ แนวคิดธุรกิจ โอกาสและกลยุทธ์ ตลาดเป้าหมายและการประมาณการ ความได้เปรียบทางการแข่งขัน ความคุ้มค่าเชิงธุรกิจ ทีมบริหาร
- อุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หรือบริการ แนวคิด และกลยุทธ์การเข้าถึงธุรกิจ และกลยุทธ์ในการเติบโต
- การวิจัยตลาด ได้แก่ ภาพรวมของตลาดและลูกค้า ขนาดและศักยภาพของตลาด กลุ่มลูกค้าหลัก/ลูกค้ารอง เกณฑ์ที่ลูกค้าซื้อสินค้า การแบ่งส่วนตลาด ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด การแข่งขันและความได้เปรียบในการแข่งขัน การประมาณการสัดส่วนและยอดขาย
- ความคุ้มค่าเชิงธุรกิจ ได้แก่ การวิเคราห์ต้นทุนคงที่ ต้นทุนแปรผัน กำไร และจุดคุ้มทุน
- แผนการตลาด ได้แก่ กลยุทธ์การตลาด การตั้งราคา เทคนิคการขาย การโฆษณาและส่งเสริมการขาย การจัดจำหน่าย การบริการลูกค้า นโยบายการรับประกันสินค้า
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ต้นทุนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และประเด็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
- แผนดำเนินงาน ประกอบด้วย โมเดลและวงจรการดำเนินงาน ตำแหน่งที่ตั้งของโรงงาน ผังโรงงาน เครื่องจักรที่จำเป็น แผนการผลิต กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ทีมบริหาร ได้แก่ โครงสร้างองค์กร ผู้บริหารที่สำคัญ ผลตอบแทนของฝ่ายบริหารและฝ่ายผู้ถือหุ้น ผลตอบแทนของฝ่ายบริหารนและฝ่ายผู้ถือหุ้น การจ้างงานและข้อตกลงอื่นๆ ตลอดจนการให้หุ้นหรือแผนการให้โบนัส คณะกรรมการบริษัทที่ปรึกษา
- แผนการเงิน ประกอบด้วย แผนกำไรขาดทุน และงบดุลที่ผ่านมาของบริษัท ประมาณการงบกำไรขาดทุน ประมาณการงบดุล ประมาณการงบกระแสเงินสด จำนวนเดือนที่จะถึงจุดคุ้มทุนและกระแสเงินสดเป็นบวก การควบคุมต้นทุน
'แผนธุรกิจที่ต้องมีโครงสร้างที่ เหมาะสม ไม่ควรเกิน 30 หน้า และที่สำคัญที่สุดในแผนธุรกิจคือแผนการเงิน จะขาดไม่ได้' รศ.ไว กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้อย่าลืมว่า 'แผนธุรกิจดีอย่างไร...ก็ไม่เท่ามีทีมงานที่ดี'
Key Point
สาเหตุที่ SMEs ล้มเหลว
- ไม่มีวิสัยทัศน์ในระยะยาว
- ขาดวัตถุประสงค์ที่กระจ่าง
- ไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้า
- คาดคะเนคู่แข่งต่ำ
- วางแผนการเงินไม่เพียงพอ
- ขาดความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง
- ระบบ+ขั้นตอนทางธุรกิจยังไม่มีประสิทธิผล
- ไม่มีความชำนาญทางธุรกิจที่สำคัญยิ่งยวด
- ไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลง
- ล้มเหลวที่จะสื่อสารเรื่องแผนธุรกิจ

การเขียนแผนธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ OTOP
และผู้ประกอบการ SMEs

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น